‘กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด’ เรียกร้องพิสูจน์ผลกระทบเหมืองแร่โปแตช ยันสิทธิการตรวจสอบต้องมีปชช. ผู้มีส่วนได้เสีย อยู่ในกระบวนการทุกครั้ง

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด จำนวนกว่า 70 คน ร่วมกับหน่วยงานรัฐ ได้แก่ อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 6 นครราชสีมา, สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครราชสีมา และอำเภอด่านขุนทด ลงพื้นที่ตรวจสอบการขุดบ่อน้ำเพิ่มเติมบริเวณรอบโครงการเหมืองแร่โปแตช ของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด บ้านหนองไทร ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ได้ยื่นหนังสือทวงถามต่อนายอำเภอด่านขุนทด เพื่อขอให้ตรวจสอบการขุดบ่อน้ำเพิ่มเติมของเหมืองแร่โปแตช ประทานบัตรที่ 28831/16137 เพราะเห็นว่าไม่มีความคืบหน้า

ต่อมาในวันที่ 31 สิงหาคม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และเจ้าหน้าที่อำเภอด่านขุนทด ได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบในเขตบริเวณของบริษัทฯ โดยไม่ได้นัดหมายกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนให้ร่วมกระบวนการตรวจสอบด้วย ดังนั้นกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ  จึงได้ทำการนัดหมายกับเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกันอีกครั้ง

โดยมีการรวมกันที่ศาลาวัดหนองไทร ซึ่งก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ได้ชี้แจงถึงวัตถุประสงค์และข้อเรียกร้องของการ

ตรวจสอบในครั้งนี้ต่อหน่วยงานรัฐ ว่าขอให้มีการตรวจสอบ ในประเด็นต่างๆ ได้แก่

บ่อน้ำรอบเขตประทานบัตร โดยเฉพาะกับบ่อที่ติดกับโรงงานผลิตเกลือบริสุทธิ์ มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีค่าความเค็มเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ และมีการปูผ้ายาง HDPE ป้องกันการรั่วซึมของน้ำเค็มหรือไม่ เนื่องจากพบว่าไม่มีการปูผ้ายางอย่างใด

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการขุดบ่อขนาดเล็กขนาดกลางจำนวนหลายบ่อกระจายตัวอยู่รอบบริเวณเหมืองว่าเป็นของโครงการบริษัทฯ หรือไม่ เพราะมีความกังวลถึงความเสี่ยงต่อการกระจายตัวของพื้นที่ดินเค็มและน้ำเค็ม ขอให้ทำการตรวจสอบแหล่งน้ำสาธารณะ แหล่งน้ำสำหรับทำประปาหมู่บ้าน และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงชี้แจงการขุดเจาะอุโมงค์ใหม่

หลังจากกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด และทุกหน่วยงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่บริเวณรอบเหมืองแร่โปแตช บริษัท ไทยคาลิ จำกัด ทั้งหมดจำนวน 14 จุด ก็พบว่า มีร่องรอยน้ำไหลซึมออกจากเหมืองแร่ฯ บริเวณแนวคันดินที่มีการปรับปรุง มีการปลูกต้นสน มีการขุดบ่อและปูผ้ายางใหม่ ชาวบ้านจึงได้ตั้งคำถามว่าเป็นไปตามรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หรือไม่

อีกทั้งยังพบสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ใกล้โรงต้มเกลือบริสุทธิ์ และมีการต่อท่อน้ำจากโรงต้มเกลือมายังสระน้ำ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเป็นจุดพักน้ำเค็มของโรงต้มเกลือหรือไม่ และอาจจะเป็นจุดที่ทำให้ก่อเกิดการกระจายความเค็มสู่ชุมชน

รวมถึงยังพบว่ามีการกระจายตัวของความเค็มไปตามจุดต่าง ๆ ในหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่ต่ำกว่าเหมืองแร่ฯ บางพื้นที่มีน้ำขังในไร่นาตลอดทั้งปีไม่สามารถเพาะปลูกข้าวหรือพืชผลทางการเกษตรได้ และมีน้ำ

เค็มไหลผ่านตามเส้นน้ำสายเล็กรอบหมู่บ้านที่ไหลออกไปสู่คลองลำมะหลอดและลำเชียงไกร

หลังการลงพื้นที่ได้มีการสรุปและทำบันทึกการลงพื้นที่ร่วมกัน โดยจะมีการนัดหมายเพื่อตรวจค่าความเค็มของน้ำและดินในพื้นที่ อย่างละเอียดร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบและการวางแผนในการฟื้นฟูพื้นที่ต่อไป

ด้านนายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากได้ทำการตรวจสอบแล้วจะทำการติดตาม สิ่งไหนที่สามารถทำได้จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่ส่วนไหนที่เกินอำนาจจะทำการส่งต่อหรือทำการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด หวังว่าทางหน่วยงานจะดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างรวดเร็ว และจะคอยติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อพิสูจน์ความจริงใจในการแก้ไขความทุกข์ร้อนของประชาชน โดยไม่เพิกเฉยเหมือนครั้งที่ผ่านมา และยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการตรวจสอบผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่อำเภอด่านขุนทดหลังจากนี้ ประชาชนซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจะไม่ถูกกีดกันออกจากกระบวนการตรวจสอบอย่างที่เคยเป็นมา

ทั้งนี้ พวกเราจะยังคงยืนหยัดที่จะสู้เพื่อผืนดินบ้านเกิดเมืองนอน แม้หนทางยาวไกล แต่พวกเราจะสู้เพื่อคนที่เรารัก สู้เพื่อแผ่นดินบ้านเกิด จดจำไว้พวกเรารักษ์บ้านเกิด จะรักษาและห่วงแหนสิ่งที่เคยมีและเคยเป็น ไม่ยอมให้ใครมาทำลายต่อหน้าต่อตา และข้อเรียกร้องเดียวคือปิดเหมืองแร่โปแตช หยุดแหล่งกำเนิดมลพิษ เพื่อฟื้นฟูชีวิต ฟื้นฟูผืนดิน ฟื้นฟูผืนน้ำ ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม

ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดคนหนึ่งจับไมค์ลุก

ขึ้นยืนกล่าวอย่างหนักแน่น ต่อหน่วยงานรัฐที่มาในวันนี้

เรื่องและภาพ : กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด จ.นครราชสีมา