
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 น. น.ส.เฉลิมศรี ประเสริฐศรี ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน พร้อมด้วยคณะกรรมการป่าชุมชน ป่าม่อนพระเจ้า หมู่ที่ 10 ต.เชียงกลาง อ.เชียงกลาง จ.น่าน เดินทางไปฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่ศาลจังหวัดน่าน (สาขาปัว) โดยคดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดน่าน (สาขาปัว) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกรรมการป่าชุมชน จำนวน 5 คน ในข้อกล่าวหาว่าร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองป่าม่อนพระเจ้า ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐและสาธารสมบัติของแผ่นดิน และมีการลักขุดดินเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ คิดมูลค่าความเสียหายเป็นเงิน 33,265 บาท
น.ส.เฉลิมศรี ประเสริฐศรี ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน รายงานว่า สืบเนื่องจากการดำเนินโครงการปลูกต้นมเหสักข์ฯ ในพ.ศ. 2559 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะต้องมีการจัดเตรียมดินเพื่อปลูกต้นไม้ พยานนายเอ (นามสมมุติ) ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อ เป็นผู้ให้เช่า ทำสัญญาเช่าที่ดินในเอกสารหมายล.3 โดยมีนายบี (นามสมมุติ) ลงลายมือชื่อเป็นผู้เช่า เพื่อนำเงิน 30,000 บาท มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมงาน
“จากการถามค้านทนายจำเลยที่ 1 นายบี (นามสมมุติ) เป็นสารวัตรกำนันของพยาน โดยโครงการนี้ รัฐไม่ได้มีการจ่ายงบประมาณไว้ให้ ในส่วนการขุดดินก็ไม่ได้มีการระบุเวลาเวลาไว้ จึงเชื่อว่าพยานนายเอ (นามสมมุติ) พัวพันการกระทำความผิด” น.ส.เฉลิมศรี ให้ข้อมูล
ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ยังอธิบายด้วยว่า ในชั้นสอบสวน ที่จำเลยทั้งห้าได้มีการลงลายมือชื่อในคำให้การพบว่าเป็นการพิมพ์เนื้อหาในคำสอบสวนในลักษณะเดียวกัน จำเลยทั้งห้านั่งอยู่ด้วยกัน ไม่มีทนายมาร่วมรับฟังการสอบสวนโดยสาเหตุที่พยานได้ลงลายมือชื่อเนื่องจากเข้าใจว่าเป็นการลงลายมือชื่อเพื่อให้นายบี (นามสมมุติ) ได้เสียค่าปรับแก่พนักงานสอบสวนสอดคล้องกับคำให้การของนายเอ (นามสมมุติ) ที่ได้เบิกความแจ้งจำเลยให้ไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ ซึ่งคำให้การของนายเอ (นามสมมุติ) ในชั้นสอบสวนที่ไปให้การสองครั้งมีลักษณะขัดแย้งกัน
นอกจากนี้ ในชั้นพนักงานอัยการจำเลยทั้งห้าได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ ตามที่ปรากฏในเอกสารหมาย ล.7-9 แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ประสงค์ต่อสู้และคัดค้านการกระทำความผิดนี้
“โจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด กล่าวคือ ไม่พบเห็นจำเลยทั้งห้าขุดดินหรือ นำดินออกไปนอกพื้นที่ ศาลจึงยกฟ้อง เนื่องจากคดีนี้มีส่วนที่ เรียกค่าเสียหายทางแพ่งเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องอาญา เมื่อข้อเท็จจริงในคดีอาญาได้ยุติลงและศาลคำพิพากษายกฟ้อง จึงต้องยุติลงในส่วนนี้”


