เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จากต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ประมาณ 50 คน พร้อมทนายความ ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อขึ้นศาลครั้งแรกในการนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางดำเนินคดีหรือสืบพยาน
ภายหลังจากวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ได้รับหมายศาล ว่า เจ้าของเหมืองหินและโรงโม่หิน เป็นโจทก์ ฟ้องชาวบ้าน 3 คน เพื่อขอให้ศาล “มีคำพิพากษาโดยให้ปลดเปลื้องการรบกวนครอบครอง โดยให้โจทก์มีอำนาจขนย้าย รื้อสิ่งขัดขวาง รวมทั้งเครื่องขัดขวางออกไปจากที่ดิน ที่โจทก์มีสิทธิตามกฎหมาย ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยวกับที่ดินตามสิทธิของโจทก์”

บรรยากาศที่ศาล เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดหนองบัวลำภูได้แจ้งกับชาวบ้านว่าอนุญาตให้เข้าในห้องพิจารณาคดีได้ 3 คน แต่ทางชาวบ้านและทนายความบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ทางโจทก์ฟ้องชาวบ้าน 3 คน และมีต่อท้ายด้วยคำว่า “บริวาร” ซึ่งบริวารคือชาวบ้านทุกคนที่มาวันนี้จึงขอเข้าร่วมรับฟังด้วย กระทั่งได้ข้อตกลงกันโดยเจ้าหน้าที่ให้เข้าฟังในห้องพิจารณาคดีได้จำนวน 10 คน
ทนายโจทก์และทนายจำเลยได้พูดคุยกับศาล โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ โจทก์มีสิทธิในการครอบครองแร่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะหากพิจารณาคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กองหินที่ได้มาหลังคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นย่อมถือเป็นการได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทนายโจทก์ยืนยันต่อศาลว่าตนมีหลักฐาน ว่าบริษัทมีสิทธิครอบครองแร่โดยถูกต้อง มีใบอนุญาตขนแร่ มีเอกสารชำระค่าภาคหลวงแร่ และอ้างต่อศาลอีกว่าทางบริษัทมีเอกสารจ่ายค่าภาคหลวงแร่ ดังนั้นบริษัทย่อมมีสิทธิที่จะนำแร่นั้นไปขายได้ แต่วันนี้ทนายโจทก์อ้างว่าไม่ได้นำเอกสารมาด้วย จึงขอเวลา 2 เดือน เพื่อนำเอกสารหลักฐานต่อศาล โดยนัดหมายวันที่ 11 กันยายน 2566
ด้านแหล่งข่าวซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า การมาวันนี้เรามาด้วยความมั่นใจ เพราะการต่อสู้ของเราที่ผ่านมาเราทำถูกต้องตามกฎหมาย เราทำในที่สว่างตลอดมา หากมีการฟ้องร้อง
“เราพร้อมที่จะสู้คดีถึงที่สุด เพราะเราแค่ลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้กับลูกหลานของเรา แต่บริษัทมาแย่งชิงทรัพยากรของเรา และแย่งชิงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราจะยอมเป็นไม่ได้”
แหล่งข่าวยังกล่าวด้วยว่า การขึ้นศาลครั้งนี้ถึงแม้บริษัทยืนยันในศาลว่าจะไม่ถอนฟ้อง แต่ไม่ใช่คำที่จะทำให้ชาวบ้านรู้สึกอ่อนไหวใดๆ ต่อคำพูดนั้น เรายังยืนยันที่จะสู้อย่างมั่นคงเพราะการต่อสู้ของเราก้าวสู่สามทศวรรษแล้ว วันที่ 11 กันยายน 2566 ฝากติดตามการเคลื่อนไหวต่อสู้ของกลุ่มอนุรักษ์ฯ อย่างใกล้ชิด.
