เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 15.55 น. ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดเลย ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรวังสะพุง เพื่อแจ้งความดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหาตัวผู้กระทำความผิด มารับโทษ หลังพบว่ามีการขโมย Server กล้องวงจรปิด และ Wi-Fi แบบพกพา ตรงประตูแดงทางเข้า-ออกเหมืองแร่ทองคำ ที่ทางกลุ่มฯ ทำการติดกล้องวงจรปิดไว้ภายหลังจากที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คุกคามระหว่างเฝ้าสินทรัพย์บริเวณเหมืองแร่ทองคำในฐานะที่เป็นเจ้าหนี้อันดับที่ 5 ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 เพื่อบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือมีการขนย้ายสินทรัพย์เถื่อนออกจากเหมืองแร่ทองคำ
กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่อุปกรณ์ของกลุ่มฯ ได้ถูกขโมยไปในครั้งนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ประกาศขายสินทรัพย์ประกอบด้วยอาคารโรงงาน เครื่องจักร ถังใส่สารเคมี และทรัพย์สินภายในโรงงานเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งปัจจุบันได้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นประมูลและหากตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นประมูลผ่านก็สามารถยื่นประมูลได้ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ หรือไม่ เพราะถนนตรงประตูแดงที่มีกล้องวงจรปิดเป็นเส้นทางหลักที่รถใหญ่สามารถวิ่งเข้าออกบริเวณเหมืองแร่ทองคำได้ หากมีใครต้องการขโมยหรือขนย้ายสิ่งของเถื่อนออกจากเหมืองแร่ก็คงหลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องจัดการกับกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะเป็นหลักฐานมัดตัวในการกระทำความผิด
อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการเจ้าหนี้ในวันที่ 21 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ว่าการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นประมูลจะผ่านจนสามารถยื่นประมูลสินทรัพย์ดังกล่าวได้ และหากได้ผู้ประมูลสินทรัพย์แล้ว จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนในครั้งช่วงต้นปี 64 หรือไม่ ที่หลังจากมีการประมูลสินแร่ทองคำ จำนวน 190 ถุง แล้ว กลับเกิดสถานการณ์ผิดปกติในพื้นที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาในหมู่บ้านและทำการคุกคามชาวบ้าน จนก่อให้เกิดบรรยากาศที่จะนำไปสู่ความรุนแรงอีกครั้ง
ในเบื้องต้นกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดเลย ได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีไว้ และต้องติดตามสถานการณ์หลังประมูลสินทรัพย์ในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
