
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2566 นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ในพื้นที่ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ประมาณ 50 คน ร่วมจัดกิจกรรม ‘1095 วัน อัศจรรย์ปิดเหมืองหินดงมะไฟ ชัยชนะที่ลิขิตโดยไทบ้าน’ เพื่อฉลองครบรอบ 3 ปี การปิดเหมืองหินดงมะไฟ ซึ่งในปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำการปักหลักชุมนุมตั้งหมู่บ้านผาฮวกพัฒนาชาวประชาสามัคคี พร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ (1) ปิดเหมืองหินและโรงโม่ (2) ฟื้นฟูภูผาป่าไม้ (3) พัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณคดี ที่บริเวณถนนทางเข้าออกเหมืองหินและโรงโม่
โดยกิจกรรมได้เริ่มด้วยการทำบุญตักบาตรครบรอบ 3 ปี ปิดเหมืองหินดงมะไฟ ทำการเปิดป้าย ‘เขตฟื้นฟูภูผาฮวก’ ตรงบริเวณถนนทางเข้าเขตพื้นที่ที่บริษัทเหมืองเคยขอประทานบัตร เพื่อทำเหมืองแร่หินและโรงโม่ พร้อมประกาศว่ากลุ่มอนุรักษ์ฯ จะทำการฟื้นฟูภูผาฮวกให้อุดมสมบูรณ์ เพื่อพัฒนาภูผาฮวกและเทือกเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางนิเวศวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณคดี และจะยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ 8 ภูผา จนกว่าจะถูกยกเลิกเป็นแหล่งหินเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง แล้วเปลี่ยนเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์แก่ชุมชนท้องถิ่นสืบไป นอกจากนี้ยังประกาศด้วยว่าภูผาฮวกและ 7 ภูผา ได้ถูกสงวนหวงห้ามไว้ไม่ให้ใครเข้ามาทำการรุกรานเพื่อประโยชน์ส่วนตนไม่ว่ากิจการใดอีกต่อไป



รวมถึงนักปกป้องสิทธิฯ ยังได้อ่านคำประกาศ ว่า 1,095 วัน ที่กลุ่มอนุรักษ์ฯปักหลักชุมนุมเพื่อยืนยันในสิทธิในการปกป้องทรัพยากรบ้านเกิดถิ่นฐานของตัวเอง บริษัทเหมืองได้อ่อนแรง เคลื่อนย้ายรถอุปกรณ์ออกจากพื้นที่ คนงานหายไป ไฟฟ้าถูกตัด และเมื่อต้นปีศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาชี้ว่าชาวบ้านคือผู้ชนะ แม้สถานการณ์ทางการเมืองไม่หยุดนิ่งผิดไปจากระบอบประชาธิปไตย มีการฉีกทิ้ง MOU 8 พรรคร่วม เพื่ออำนาจทุน ศักดินา ตักตวงผลประโยชน์พวกพ้อง และแสดงพฤติกรรมอันน่าเอือมระอาต่อประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ แต่สถานการณ์การต่อสู้เพื่อปิดเหมืองถาวรจะยังคงยืนหยัดหนักแน่นต่อข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ที่ได้ทำ MOU ร่วมกัน 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านนาไร่ บ้านโนนมีชัย บ้านนาเจริญ บ้านผาซ่อน บ้านผาซาง ม.8 และบ้านผาซาง ม.12 ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู โดยจะไม่มีการเจราจาข้ามขั้ว ไม่เห็นผลประโยชน์ที่นายทุนหยิบยื่น ไม่สลายกลุ่มเพื่อให้นายทุนกลับมาระเบิดภูเขา จะฮักกันมั่นแก่นคือปั้นข้าวเหนียว และ ฮักกันยืนเคียงข้างแบบนี้ตลอดไปจนกว่าจะได้ชัยชนะ
ซึ่งนายสมควร เรียงโหน่ง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ได้เผยความรู้สึกว่า “หากย้อนกลับเมื่อปี 2562 พวกเราได้ทำกิจกรรม เดิน-ปิด-เหมือง จากถ้ำศรีธนถึงจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นเวลาถึง 6 วัน เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดหนองบัวลำภูยุติการทำเหมืองแร่และโรงโม่แต่หน่วยงานก็ยังนิ่งเฉย จนเราต้องทำการปิดเหมืองด้วยตัวเราเองเมื่อปี 2563 ซึ่งถ้าถามถึงความรู้สึกของวันแรกที่ทำการปักหลักตั้งหมู่บ้านมาถึงวันนี้ความสามัคคีของพวกเรายังเหมือนเดิมและรู้สึกดีใจมาก”


ขณะที่นางสาวพรพรรณ อนุเวช ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯ ก็ได้กล่าวว่า “มีคำพูดที่ยังดังก้องอยู่ในหูตลอดเวลาขณะที่เราประชุมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ก็คือประโยคที่ว่าถ้าเราไม่ได้รับคำตอบเราจะนอนปิดเหมืองไหม พวกเราทุกคนพูดพร้อมกันว่าไป ซึ่งทุกคนตรงมาบริเวณถนนเข้าออกเหมืองไม่มีใครแวะเข้าบ้านแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งฝนตกก็ยังไม่มีใครเอ่ยปากพูดว่าเรากลับไปบ้านก่อนไหม ทุกคนพร้อมใจกันนอนปิดเหมืองหินและโรงโม่ ซึ่งในปี 2566 นี้ เราประสบผลสำเร็จ เราได้รับชัยชนะ เรามีบ้านเป็นที่พักพิง มีเสบียงอาหารหล่อเลี้ยง และเราจะยังคงยืนหยัดสู้ต่อไป”
นอกจากนี้แล้วนักปกป้องสิทธิฯยังทำพิธีเลี้ยงปู่ย่าผาฮวก จัดมินิคอนเสิร์ต ขับร้องบทเพลงผาซ่อนคอยซึ่งเป็นบทเพลงที่ใช้ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ และการแสดงตีกลองยาวจากเยาวชนนักอนุรักษ์น้อย เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปี ปิดเหมืองหินดงมะไฟ หรือ 1095 วัน อัศจรรย์ปิดเหมืองหินดงมะไฟ ชัยชนะที่ลิขิตโดยไทบ้าน
เรื่องและภาพ : เพจเหมืองแร่หนองบัว

